“ยางมะตอย” เป็นยางเหนียวสีดำที่เราเอามาลาดทำถนนให้รถวิ่ง ซึ่งได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบในหอกลั่นลำดับส่วนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม โดยยางมะตอยจะเป็นกากที่เหลือจากการกลั่นน้ำมันดิบ ทำให้มีลักษณะเหนียวหนืดไม่เหมือนกับน้ำมันเบนซิน ดีเซล ที่ได้จากการกลั่นเช่นกัน แต่ในอดีตที่เราคนไทยพึ่งจะรู้จักใช้ยางมะตอยเป็นครั้งแรก มีบริษัทของฝรั่งที่ชื่อว่า บริษัท Maltoy (มาลตอย : เป็นภาษาฝรั่งเศส) เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ผลิตยางมะตอยมาใช้ในการทำถนนในประเทศไทย ชาวบ้านเนื่องจากไม่เคยเห็นยางมะตอยมาก่อน จึงได้ตั้งชื่อยางเหนียวสีดำที่เอามาทำถนนนี้ว่า “ยางมาลตอย” ซึ่งได้จากนำชื่อบริษัทที่ผลิตมาเป็นชื่อ แล้วเวลาต่อมาคำว่า “ยางมาลตอย” จึงเพี้ยนมาเป็นคำว่า “ยางมะตอย” เราจึงได้ใช้คำนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ยางมะตอย(Bitumen/Asphalt)มีลักษณะเป็นของเหลวข้นหนืด มีอำนาจการยืดสูง หรือเป็นกึ่งของแข็งสีดำ หรือสีน้ำตาลแก่แกมดำ เป็นของผสมระหว่างสารประกอบไฮโดรคาร์บอน และสารอินทรีย์อื่นๆ ยางมะตอย ได้มาจากขบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม โดยยางมะตอยจะเป็นส่วนของน้ำมันดิบที่หนักที่สุด และจะถูกนำไปผ่านขบวนการผลิตยางมะตอยต่อไป เพื่อให้ได้ยางมะตอยที่มีคุณสมบัติต่างๆ ตามต้องการ การที่ยางมะตอยได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างกว้างขวางนั้น เนื่องจากดคุณสมบัติที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1. มีคุณสมบัติในการยึดและประสาน: ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมวัสดุต่างๆ ให้ติดกัน เช่น การผสมยางมะตอยกับหินย่อย เพื่อใช้ทำผิวจราจรต่างๆ เป็นต้น
2. มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำซึมผ่าน: เมื่อวัสดุเคลือบด้วยยางมะตอยแล้ว โอกาสที่น้ำจะซึมผ่านจะเป็นไปได้ยาก
3.คุณสมบัติที่เป็นของเหลวหรืออ่อนตัวเมื่อถูกความร้อนและแข็งตัวเมื่อเย็นลง คุณสมบัตินี้จะทำให้สามารถนำยางมะตอยมาใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น เช่น การทำถนน เมื่อทำให้ยางมะตอยเหลวก็สามารถผสมยางมะตอยกับวัสดุต่างๆ ได้ดี และเมื่อลาดยางมะตอยแล้วจะเย็นลงจนเกิดการแข็งตัว